การวัดความขนาน

คุณสมบัติของความขนานจะระบุว่าเส้นหรือระนาบทั้งสองขนานกันหรือไม่
ถึงแม้ว่าความขนานจะดูเหมือนกับความเรียบ แต่การวัดความตรงก็ต้องใช้ Datum (ระนาบหรือเส้นอ้างอิง) ดังนั้น ระนาบ Datum นั้นจึงต้องยึดติดกับแผ่นพื้นผิวเรียบเมื่อทำการวัด

แบบร่างตัวอย่าง

การวัดความขนาน

การใช้ไดอัลเกจ

การใช้ไดอัลเกจ
a
ชิ้นงาน
b
แผ่นพื้นผิวเรียบ
c
Δh = ความขนาน
d
กราฟความสูง

ยึดชิ้นงานให้เข้าที่บนแผ่นพื้นผิวเรียบ เลื่อนชิ้นงานหรือเกจวัดความสูงตรงไปด้านหน้าเพื่อทำการวัด ผลต่างระหว่างค่าที่วัดได้สูงสุด (ความสูงที่สูงที่สุด) และค่าที่วัดได้ต่ำสุด (ความสูงที่ต่ำที่สุด) คือค่าความขนาน

ข้อเสีย

เนื่องจากต้องวัดเป็นเส้นตรง จึงต้องวัดหลายจุด หากชิ้นงานเป็นชิ้นส่วนยืดหยุ่น (เช่น เรซินอ่อนหรือผลิตภัณฑ์ยาง) น้ำหนักของสไตลัส (แรงกดในการวัด) อาจทำให้พื้นผิวที่วัดผิดรูปได้ ซึ่งอาจทำให้การวัดไม่แม่นยำ
นอกจากนี้ ชิ้นงานที่ไม่สามารถยึดระนาบอ้างอิงกับแผ่นพื้นผิวเรียบได้ก็ยังจะทำให้วัดได้ยาก

การใช้เครื่องมือวัดพิกัด (CMM)

การใช้เครื่องมือวัดพิกัด
a
ชิ้นงาน
b
แผ่นพื้นผิวเรียบ

วางสไตลัสที่ 4 จุดของชิ้นงานเพื่อทำการวัด สไตลัสจะสัมผัสชิ้นงานเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยให้วัดได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำให้ชิ้นงานยืดหยุ่นผิดรูปไป
นอกจากนี้ยังสามารถวางสไตลัสบนชิ้นงานได้ที่มุมและตำแหน่งที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้ทำการวัดและกำหนดองค์ประกอบอ้างอิงได้ง่าย ถึงแม้จะเป็นชิ้นงานที่ไม่สามารถยึดกับแผ่นพื้นผิวเรียบได้อย่างเหมาะสมก็ตาม

หน้าจอแสดงผลการวัด
หน้าจอแสดงผลการวัด
a
ผลการวัดความขนาน
b
องค์ประกอบของชิ้นงาน (ระนาบ)
c
องค์ประกอบอ้างอิง (ระนาบ)

ดัชนี